- Home page
- Blogs Room
- Sustainability คืออะไร ทำไมต้องพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน
Sustainability คืออะไร ทำไมต้องพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน
แนวคิดเรื่อง ความยั่งยืน หรือ Sustainability ถือเป็นแนวคิดที่สำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหามลพิษทางอากาศ ภัยแล้ง น้ำท่วม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบันและสามารถส่งต่อสิ่งดีๆต่อไปได้ในอนาคต
ความยั่งยืน (Sustainability) คืออะไร
ความยั่งยืน คือ แนวคิดในการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบัน โดยไม่กระทบต่อความสามารถของคนรุ่นหลังในการตอบสนองความต้องการของตนเอง หมายถึง การใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คนรุ่นต่อไปสามารถเข้าถึงทรัพยากรเหล่านั้นได้เช่นเดียวกับคนรุ่นปัจจุบัน โดยสามารถแบ่งองค์ประกอบของความยั่งยืนออกเป็น 3 ด้านหลัก ซึ่งมีความสำคัญและเกี่ยวข้องกัน ดังนี้
1. ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability)
ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นรากฐานสำคัญของความยั่งยืนในภาพรวม มุ่งเน้นไปที่การรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อๆ ไปสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับประเทศไทย ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเรากำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย เช่น
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตลอดเวลา เช่น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง น้ำท่วม พายุต่างๆ และความเสี่ยงจะสูญพันธุ์ของความหลากหลายทางชีวภาพ แต่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหัวใจในการรับมือกับปัญหานี้
- การจัดการทรัพยากร
ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการทรัพยากรให้อย่างทั่วถึงในหลาย ๆ ด้าน เช่น ปัญหาการขาดแคลนน้ำ การตัดไม้ทำลายป่า และการจัดการขยะ เพราะฉะนั้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง และการลดการใช้ทรัพยากร เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
- พลังงานหมุนเวียน
ประเทศไทยค่อนข้างมีศักยภาพในการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ฉะนั้นการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนจึงช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
- ความพยายามในการอนุรักษ์
ประเทศไทยมีโครงการในเชิงอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และโครงการอนุรักษ์โดยชุมชน โดยการสนับสนุนโครงการเหล่านี้สามารถช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบนิเวศที่สำคัญได้
2. ความยั่งยืนด้านสังคม (Social Sustainability)
ความยั่งยืนด้านสังคม ให้ความสำคัญกับการสร้างสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรม และมีความเป็นอยู่ที่ดี โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ซึ่งประเทศไทยเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านสังคมหลายประการ เช่น
- ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ประเทศไทยยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น ความยากจน การเข้าถึงการศึกษา และความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงบริการสุขภาพ การลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความยั่งยืนด้านสังคมที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน
- การพัฒนาชุมชน การมีส่วนร่วมของชุมชน และการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชน เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน และการส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
- การอนุรักษ์วัฒนธรรม มรดกทางวัฒนธรรม และความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ และการส่งเสริมวัฒนธรรม จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจ และความเข้มแข็งให้กับชุมชน
- สิทธิมนุษยชน การเคารพสิทธิมนุษยชน และการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม เป็นสิ่งสำคัญในบริบทของความยั่งยืน การคุ้มครองสิทธิของแรงงาน การต่อต้านการค้ามนุษย์ และการส่งเสริมความเท่าเทียมกัน เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
3. ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ (Economic Sustainability)
ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบเศรษฐกิจที่มั่นคง เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาว ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืน โดยมีแนวคิดและโมเดลทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น
- เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นโอกาสสำคัญในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยมีโอกาสในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น พลังงานหมุนเวียน การเกษตรแบบยั่งยืน และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมนวัตกรรม และการลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว จะช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการจ้างงานมากขึ้นอีกด้วย
- เศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) สำหรับประเทศไทยที่มีชายฝั่งทะเลยาวและทรัพยากรทางทะเลอุดมสมบูรณ์ การนำทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เศรษฐกิจสีน้ำเงินจึงเป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน และส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำประมงที่ยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การพัฒนาพลังงานทางทะเล และ การฟื้นฟูป่าชายเลน
- การลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment) การลงทุนอย่างยั่งยืน กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกว่า ธุรกิจ ESG ที่ดำเนินงานเพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม การส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืน จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ
- การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) มุ่งเน้นการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวโดยชุมชน และการจัดการผลกระทบจากการท่องเที่ยว ยิ่งประเทศไทยที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว จึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจในการสร้างความยั่งยืนให้กับแหล่งท่องเที่ยว
ทำไมต้องพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน
การพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน (Sustainable Organization) เป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างผลกำไร การดูแลสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว องค์กรที่ยั่งยืน จะให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ลดมลพิษ และของเสีย ส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคม และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ซึ่งนำไปสู่การสร้างคุณค่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาว การพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนครอบคลุมมิติต่างๆ ดังนี้
- ด้านธุรกิจ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย ยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กร และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน และการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส
- ด้านเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคง เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจสีน้ำเงิน และการลงทุนอย่างยั่งยืน
- ด้านสังคม มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรม และมีความเป็นอยู่ที่ดี เช่น การลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาชุมชน การอนุรักษ์วัฒนธรรม และการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
- ด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดมลพิษ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
องค์กรที่ยั่งยืน จะมีความสามารถในการปรับตัว รับมือกับความเสี่ยง และความท้าทายต่างๆ ได้ดีกว่า เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพสิ่งแวดล้อม วิกฤตเศรษฐกิจ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคง และความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในระยะยาว นอกจากนี้ องค์กรที่ยั่งยืน ยังสามารถดึงดูด รักษา และพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถ สร้างแรงจูงใจ และความผูกพันของพนักงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ
สิงห์ เอสเตท กับ โครงการด้านความยั่งยืน
สิงห์ เอสเตท ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, and Governance - ESG) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
กรอบการพัฒนาความยั่งยืนของสิงห์ เอสเตท
สิงห์ เอสเตท ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ "Sustainable Diversity" เพื่อสร้างความสมดุล โดยมีพันธกิจในการพัฒนาและบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อย่างมืออาชีพ ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย (Residential) อาคารสำนักงาน โรงแรม นิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทฯ มุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และมีส่วนร่วมในการจำกัดคาร์บอนของประเทศไทย หรือ NDC (Nationally Determined Contribution) ที่ร้อยละ 40
โครงการด้านความยั่งยืนและความคิดริเริ่มที่สำคัญ
สิงห์ เอสเตท ดำเนินโครงการที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน เช่น
- สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส (Santiburi The Residences)
โครงการบ้านให้ความสำคัญกับการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์น้ำ และการมีส่วนร่วมกับชุมชน
- ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (SIRANINN Residences)
โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่ตั้งบนทำเลใจกลางเมือง ที่ออกแบบเพื่อรักษาต้นจามจุรีต้นเดิมในโครงการ เพื่อรักษาธรรมชาติเดิมไว้ พร้อมกับสิ่งปลูกสร้างใหม่อย่างลงตัว
- ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE Sukhumvit 36)
โครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ตั้งอยู่บนทำเลทองติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS ทองหล่อ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เน้นการประหยัดพลังงาน พื้นที่สีเขียว และระบบการจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ
อาคารสำนักงานบนถนนอโศกที่โดดเด่นด้วยการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน การใช้พลังงานหมุนเวียน และกลยุทธ์การลดขยะ พร้อม Green Space พื้นที่ส่วนกลาง และ Public Co-Working Space
ถือเป็นโครงการมี Features ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การเก็บกักน้ำฝน พื้นที่สีเขียว และระบบไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน
โดยทั้ง 2 โครงการได้รับมาตรฐานรับรองระดับโลก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ในระดับ Gold Version 4 ปี 2023 มาตรฐานแบบประเมินอาคารสีเขียวระดับสากลที่ถูกไว้วางใจทั่วโลก ซึ่งเป็นอาคารอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี และประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังคว้า 3 มาตรฐานไอเอสโอ (ISO) อย่าง ISO 9001:2015 ด้านคุณภาพการจัดการ, ISO 14001:2015 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และ ISO 45001:2018 ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่เข้มงวดและดีที่สุดของการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านการบริหารและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
- ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives)
โครงการที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น การปกป้องระบบนิเวศทางทะเล และการสร้างศูนย์อนุรักษ์สัตว์ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรอินเดีย
- ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village)
โครงการที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับชุมชน เช่น โครงการ Phi Phi Create Share Value และโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลน
โครงการความยั่งยืนอื่นๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนของสิงห์ เอสเตท สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน บูรณาการแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้ากับทุกกระบวนการดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม
คำถามที่พบบ่อย
Q: ทำไมความยั่งยืนจึงสำคัญ?
A: ความยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโลกและมนุษยชาติในหลายด้าน เช่น การรักษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาสังคม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นหลัง
Q: เป้าหมายของความยั่งยืนคืออะไร?
A: เป้าหมายของความยั่งยืน คือ การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว
Q: เราจะมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนได้อย่างไร?
A: ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนได้หลายวิธี เช่น การลดการใช้พลังงาน การใช้น้ำอย่างประหยัด การคัดแยกขยะ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ
Q: รู้ได้อย่างไรว่าองค์กรมีความยั่งยืน
A: การประเมินว่าองค์กรมีความยั่งยืนหรือไม่นั้น นอกเหนือจากการพิจารณา 3 เสาหลัก (เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม) การประเมินยังพิจารณาจากรายงานความยั่งยืน มาตรฐานและเกณฑ์ประเมินระดับสากลและระดับประเทศ (เช่น GRI Standards, SET ESG Ratings) โดยการรับรอง ESG Rating รวมถึงการจัดทำรายงานความยั่งยืน (SD Report) นั้นมีบทบาทสำคัญในการยืนยันและเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนขององค์กรอย่างเป็นทางการ
- ESG Rating เป็นการประเมินผลการดำเนินงานขององค์กรตามปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยหน่วยงานภายนอก เพื่อให้คะแนนและจัดอันดับ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใช้ประกอบการตัดสินใจ
- รายงานความยั่งยืน (SD Report) เป็นรายงานที่องค์กรจัดทำขึ้นเพื่อเปิดเผยข้อมูลและผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งนโยบาย กลยุทธ์ เป้าหมาย และผลการดำเนินงานจริง ซึ่งการมีทั้ง ESG Rating ที่ดีและการจัดทำ SD Report ที่น่าเชื่อถือ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความโปร่งใสขององค์กรในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย