• Home page
  • Blogs Room
  • เทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน
30 Nov 2024

เทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน

เทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต เพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืน

การลงทุนคือการนำทรัพย์สินที่มีอยู่ไปสร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าและผลตอบแทน เหมือนการเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อหวังผลผลิตที่งอกงามในอนาคต ซึ่งการลงทุนมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ หุ้น และพันธบัตร ที่เป็นสินทรัยพ์ทางการเงิน การลงทุนจึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เงินงอกเงย สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อลดโอกาสการสูญเสีย และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

การลงทุน คืออะไร

การลงทุน คือ การใช้ทรัพยากรอย่าง เงิน เวลา หรือความพยายาม เพื่อสร้างผลตอบแทนหรือมูลค่าในอนาคต โดยทั่วไปการลงทุนมักเกี่ยวข้องกับการใช้เงินเพื่อซื้อทรัพย์สินหรือทรัพยากรที่คาดว่าจะสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าในอนาคตให้งอกเงย และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินต้นที่ลงทุนไป

การวางแผนการลงทุนที่ดีต้องทำอย่างไร

1. กำหนดเป้าหมายและประเมินตนเอง

ตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน วัดผลได้ ระบุเวลาและจำนวนเงินที่ต้องการ พร้อมทั้งประเมินสถานะทางการเงิน รายได้-รายจ่าย หนี้สิน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้

2. กำหนดระยะเวลาและประเภทการลงทุน

เลือกระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม (ระยะสั้น/ยาว) และประเภทการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยง เช่น หุ้น พันธบัตร อสังหาฯ

3. กระจายการลงทุน

ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อที่เราถือครองไว้โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนหรือกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, พันธบัตร, อสังหาริมทรัพย์, กองทุนรวม, ทองคำ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ

4. ตั้งงบประมาณและติดตามผล

กำหนดเงินลงทุนในแต่ละเดือน และติดตามผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ปรับแผนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี

5. ศึกษาหาความรู้

ศึกษาข้อมูลข่าวสารตลาดการเงิน เศรษฐกิจ และเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ อยู่เสมอ

6. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากเราไม่มีความเชี่ยวชาญหรือความรู้เพียงพอในการลงทุน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาทางการเงินก่อนเริ่มการลงทุน

ระยะของการลงทุนที่นิยมปัจจุบัน

การลงทุนระยะสั้น (ระยะ 1-3 ปี)

การลงทุนระยะสั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสภาพคล่อง เข้าถึงเงินทุนได้รวดเร็ว รับความเสี่ยงได้น้อย และต้องการผลตอบแทนที่อาจมากกว่าเงินฝาก เน้นการทำกำไรในระยะเวลาอันสั้น เช่น ต้องการใช้เงินก้อนใน 1-3 ปีข้างหน้า ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้ตามสถานการณ์ แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าการฝากเงิน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งการลงทุนระยะสั้นที่นิยมจะมี เช่น เงินฝากประจำ กองทุนรวม ตราสารหนี้ระยะสั้น

การลงทุนระยะยาว (3 ปีขึ้นไป)

การลงทุนระยะยาวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต รับความเสี่ยงได้สูง และไม่ต้องการใช้เงินก้อนในเร็วๆ นี้ เช่น วางแผนเกษียณ การลงทุนระยะยาวช่วยให้เงินลงทุนเติบโตจากพลังของผลตอบแทนทบต้น ลดผลกระทบจากความผันผวนระยะสั้น และอาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น หุ้น กองทุนรวมหุ้น อสังหาริมทรัพย์

เทรนด์การลงทุนแห่งอนาคต

ต้องบอกเลยว่าโลกของการลงทุนนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ปัญหาทางสังคม และเหตุการณ์ระดับโลกต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ที่ส่งผลในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ เราจะเห็นเทรนด์การลงทุนที่ปรับเปลี่ยนไปตลอด  

1. การลงทุนที่ยั่งยืน (Sustainable Investing)

  • ESG Investing หรือ หุ้นยั่งยืน เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารจัดการองค์กรในการตัดสินใจลงทุนหรือดำเนินธุรกิจ 
  • Green Bonds ตราสารหนี้ที่ระดมทุนเพื่อโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • Impact Investing การลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

2. การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment)

  • Real Estate การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจและสามารถจับต้องได้ ถือเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคง
  • Private Equity การลงทุนในบริษัทเอกชนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • Venture Capital การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพสูง

3. การลงทุนในเทคโนโลยี (Technology Investment)

  • ปัญญาประดิษฐ์ (AI) AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การลงทุนในบริษัทที่พัฒนา AI หรือ นำ AI มาใช้ เช่น บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ AI บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ ถือเป็นการลงทุนที่มีศักยภาพสูง
  • Blockchain  เทคโนโลยีบล็อกเชนจะปฏิวัติวงการการเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) และโทเค็น (Token) ที่หลากหลาย
  • FinTech เทคโนโลยีทางการเงินจะทำให้การเข้าถึงบริการทางการเงินเป็นไปได้ง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

  • ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทรัพย์สินที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน REITs ให้ความสะดวกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ต้องมีการจัดการทรัพย์สินเอง
  • ตราสารทุนหรือหุ้นสามัญ (Stock) เป็นการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถรับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) และเงินปันผล 
  • ตราสารหนี้ (Bond) โดยจะเป็นการได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนด
  • กองทุนรวม (Mutual Funds) การรวมเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คน เพื่อลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยมีผู้จัดการกองทุนดูแลการลงทุน แต่ก่อนจะเลือกลงทุนในกองทุนรวม ควรต้องพิจารณาว่าเรายอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน แล้วระยะเวลาการลงทุนในกองทุนรวม เหมาะสมกับเราหรือไม่
  • ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ (Gold and Commodities) การลงทุนในสินทรัพย์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาด โดยทุกวันนี้สามารถลงทุนได้ทั้งในรูปแบบการออมทองต่างๆ หรือการซื้อเป็นทองคำมาเก็บไว้ ซึ่งจะมั่นคงกว่าการเทรดที่มีความเสี่ยงสูง
  • สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrencies) สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดบมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลโดยการเข้ารหัสและกระจายศูนย์ทำให้ไม่ถูกควบคุมโดยองค์กรใดๆ  แต่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum นั้นมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของราคา ที่เปลี่ยนไปตามอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินดิจิทัลนั้นๆ รวมไปถึงมีสกุลเงินดิจิทัลเกิดใหม่ขึ้นมาตามจุดประสงค์ต่างๆแทบทุกวัน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
  • อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) การลงทุนในทรัพย์สิน อย่างเช่น บ้าน ที่ดิน หรืออาคารพาณิชย์ ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัย เพื่อขายหรือให้เช่า เป็นการลงทุนที่ช่วยสร้างความมั่นคงในระยะยาว และเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก เพราะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสามารถสร้างรายได้ประจำจากค่าเช่า ซึ่งเป็นกระแสเงินสดที่มั่นคงและยั่งยืน และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มักมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ทำให้มีผลตอบแทนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

จากที่กล่าวมาถึงประเภทของการลงทุนที่น่าสนใจในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ จะเห็นได้ว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน การลงทุนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดี เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีความหลากหลายในพอร์ตการลงทุน มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการ และมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

Singha Estate บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เติบโตสู่บริษัทการลงทุนระดับสากล

Singha Estate ครอบคลุมธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร ทั้งโครงการขายและปล่อยเช่า อาทิ คอนโดมิเนียม, บ้านเดี่ยว, โรงแรม และพื้นที่สำนักงาน  ที่สำคัญคือบริษัทยังมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตและกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงและลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน ควบคู่กับกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทมุ่งมั่นสร้างโครงการที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ครอบคลุมธุรกิจโรงแรม โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า รวมไปถึงโครงการที่ผสมผสานที่พักอาศัย บริเวณพักผ่อน ทำงาน และชอปปิง เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ให้กับทุกคน นอกจากนี้ยังเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และส่งมอบคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมผ่านการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม

Singha Estate ไม่เพียงแค่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ แต่ยังขยายขอบเขตของการลงทุนให้ครอบคลุมไปถึงธุรกิจโรงแรม พื้นที่พาณิชย์ และรีสอร์ทระดับโลกหลากหลายสถานที่ ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะสร้างแพลตฟอร์มการลงทุนที่ยั่งยืนและมั่นคง บริษัทใช้กลยุทธ์ร่วมลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากเกินไป และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตระยะยาว

ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเน้นการกระจายความเสี่ยงทางการลงทุนนี้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท แม้ในสภาวะอุตสาหกรรมที่ไม่แน่นอน แม้เผชิญกับความท้าทาย สิงห์ เอสเตท ยังคงสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ด้วยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นถึง 14% จากปี 66 สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารจัดการ และความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ สิงห์ เอสเตท มุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์โครงการใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ทางธุรกิจแต่ยังสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระดับสูงสุด และยังคงรักษามาตรฐานการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนต่อไป

การลงทุนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจากเทรนด์การลงทุนทั้งปัจจุบันและอนาคต การกระจายความเสี่ยงและมีความยั่งยืนเป็นจุดประสงค์ของนักลงทุนทุกคน

Share :